บัตรชมการแสดง "โขน ศาลาเฉลิมกรุง"
(กรุณาดูตารางราคาบัตรทางด้านล่างครับ) |
โขน ศาลาเฉลิมกรุง : “โขน” ถือได้ว่าเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทย เป็นจุดศูนย์รวมของศิลปะหลากหลายแขนงโดยมีการนำเอาวิธีการเล่นการแต่งกายบางอย่างมาจาก “ชักนาคดึกดำบรรพ์ในพิธีอินทราภิเษก” มีท่ารำตามแบบ “ละครใน” มีท่าเต้นซึ่งเลียนมาจากการเชิด “หนังใหญ่” และมีท่าการต่อสู้ที่โลดโผน เช่น ท่าปฐมในการไหว้ครูของ “กระบี่กระบอง” ใช้ “วงปี่พาทย์” ในการบรรเลงดนตรีประกอบการแสดง ดำเนินเรื่องราวโดยการใช้บทพากย์ บทเจรจาและบทร้อง (ใช้บทร้องสำหรับการแสดง “โขนโรงใน” และ “โขนฉาก” เท่านั้น การเล่นโขนแต่ดั้งเดิมจะไม่มีบทร้อง มีเพียงแค่บทพากย์และบทเจรจา) การแสดงโขนมีลักษณะสำคัญอยู่ตรงที่ผู้แสดงต้องสวม “หัวโขน” ซึ่งเป็นเครื่องสวมครอบหุ้มตั้งแต่ศีรษะจนถึงคอ เจาะรูสองรูบริเวณดวงตาเพื่อใช้ในการมอง หัวโขนจะถูกสร้างขึ้นตามลักษณะของตัวแสดงต่าง ๆ (เช่น ตัวยักษ์ , ตัวลิง , ตัวเทวดา , ฯลฯ) ตกแต่งด้วยสี ลงรักปิดทอง ประดับกระจก
![]() ![]() เครื่องแต่งกายอันวิจิตรงดงามตามแบบธรรมเนียมดั้งเดิมของ "โขน ศาลาเฉลิมกรุง" |
จาก “จดหมายเหตุลาลูแบร์” (Simon de La Loubere คือ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสซึ่งเดินทางเข้ามายังประเทศสยามในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ทำให้เราพอจะทราบว่าการแสดงโขนมีอยู่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาแต่ว่าเริ่มกำเนิดเกิดขึ้นในสมัยใดนั้นไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด เมื่อกาลเวลาล่วงเลยพ้นผ่านโขนก็มีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยจนแบ่งแยกออกเป็นหลายประเภท ได้แก่
1.โขนกลางแปลง เป็นการเล่นโขนกลางแจ้งโดยใช้ภูมิประเทศรอบข้างเป็นฉาก ไม่มีการปลูกโรงแสดง ตัวแสดงทุกตัวจะต้องสวมหัวโขน
2.โขนโรงนอก หรือ โขนนั่งราว วิวัฒนาการมาจากโขนกลางแปลง แต่แสดงบนโรงเรือนที่ปลูกสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะ โรงเรือนดังกล่าวจะมีการใช้ราวไม้ไผ่วางพาดไว้ตามส่วนยาวของโรงเพื่อให้ตัวแสดงนั่งโดยสมมุติว่าเป็นเตียง การแสดงโขนโรงนอกหรือโขนนั่งราวนี้ยังคงมีการใช้เพียงแค่บทพากย์และบทเจรจาในการดำเนินเรื่อง ไม่มีบทร้อง
3.โขนหน้าจอ เป็นโขนที่แสดงหน้าจอ “หนังใหญ่” โดยผู้แสดงโขนออกมาแสดงสลับกับการเชิดตัวหนัง ภายหลังมีการยกเลิกการแสดงหนังใหญ่คงเหลือเอาไว้เฉพาะโขนเนื่องจากผู้ดูนิยมการแสดงที่ใช้คนจริงมากกว่าตัวหนัง(แต่ก็ยังคงใช้หน้าจอหนังใหญ่ในการแสดงโขนอยู่) ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาหน้าจอโดยทำให้มีช่องประตูสำหรับเข้า – ออก และวาดภาพซุ้มประตูด้านซ้ายเป็นค่ายของพระราม ส่วนซุ้มประตูด้านขวาวาดเป็นกรุงลงกาของทศกัณฐ์ (เนื่องจากโขนของไทยนิยมแสดงแต่เฉพาะเรื่อง “รามเกียรติ์”)
4.โขนโรงใน เป็นการนำเอาศิลปะการแสดงของละครในเข้ามาผสมผสานกับโขน โดยนำท่ารำ ท่าเต้น บทพากย์ บทเจรจาแบบโขนมาใช้ร่วมกับบทร้องและเปลี่ยนสถานที่แสดงมาใช้โรงแบบละครใน ผู้แสดงเป็นตัวพระ ตัวนาง และเทวดา เริ่มที่จะไม่ต้องสวมหัวโขนในการแสดง
5.โขนฉาก เป็นการแสดงโขนที่มีการจัดฉากให้เข้าเหตุการณ์และสถานที่ตามท้องเรื่อง แบ่งฉากเป็นองก์ต่าง ๆ โขนฉากเริ่มถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) และถือได้ว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของโขนที่สืบทอดต่อเนื่องยาวนานมาจวบจนกระทั่งถึงยุคสมัยปัจจุบัน
2.โขนโรงนอก หรือ โขนนั่งราว วิวัฒนาการมาจากโขนกลางแปลง แต่แสดงบนโรงเรือนที่ปลูกสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะ โรงเรือนดังกล่าวจะมีการใช้ราวไม้ไผ่วางพาดไว้ตามส่วนยาวของโรงเพื่อให้ตัวแสดงนั่งโดยสมมุติว่าเป็นเตียง การแสดงโขนโรงนอกหรือโขนนั่งราวนี้ยังคงมีการใช้เพียงแค่บทพากย์และบทเจรจาในการดำเนินเรื่อง ไม่มีบทร้อง
3.โขนหน้าจอ เป็นโขนที่แสดงหน้าจอ “หนังใหญ่” โดยผู้แสดงโขนออกมาแสดงสลับกับการเชิดตัวหนัง ภายหลังมีการยกเลิกการแสดงหนังใหญ่คงเหลือเอาไว้เฉพาะโขนเนื่องจากผู้ดูนิยมการแสดงที่ใช้คนจริงมากกว่าตัวหนัง(แต่ก็ยังคงใช้หน้าจอหนังใหญ่ในการแสดงโขนอยู่) ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาหน้าจอโดยทำให้มีช่องประตูสำหรับเข้า – ออก และวาดภาพซุ้มประตูด้านซ้ายเป็นค่ายของพระราม ส่วนซุ้มประตูด้านขวาวาดเป็นกรุงลงกาของทศกัณฐ์ (เนื่องจากโขนของไทยนิยมแสดงแต่เฉพาะเรื่อง “รามเกียรติ์”)
4.โขนโรงใน เป็นการนำเอาศิลปะการแสดงของละครในเข้ามาผสมผสานกับโขน โดยนำท่ารำ ท่าเต้น บทพากย์ บทเจรจาแบบโขนมาใช้ร่วมกับบทร้องและเปลี่ยนสถานที่แสดงมาใช้โรงแบบละครใน ผู้แสดงเป็นตัวพระ ตัวนาง และเทวดา เริ่มที่จะไม่ต้องสวมหัวโขนในการแสดง
5.โขนฉาก เป็นการแสดงโขนที่มีการจัดฉากให้เข้าเหตุการณ์และสถานที่ตามท้องเรื่อง แบ่งฉากเป็นองก์ต่าง ๆ โขนฉากเริ่มถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ 5) และถือได้ว่าเป็นวิวัฒนาการขั้นสุดท้ายของโขนที่สืบทอดต่อเนื่องยาวนานมาจวบจนกระทั่งถึงยุคสมัยปัจจุบัน
![]() ![]() "โขน ศาลาเฉลิมกรุง" ดำรงคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์คุณค่าความเป็นไทย |
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ “โขน” เป็นศิลปะการแสดงชั้นสูงซึ่งหาชมได้ไม่ง่ายนัก และทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ก็เชื่อว่ายังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่เล็งเห็นถึงคุณค่าความงดงาม – ความสำคัญของนาฏศิลป์โบราณชนิดนี้ รวมทั้งยังมีความต้องการที่จะหาโอกาสไปดู.....ไปรับชมโขนอย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต (แม้แต่ “พนม ยีรัมย์” หรือ “จา พนม” นักแสดงนำ – ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “องค์บาก 2 – 3” ก็เคยนำเอาท่าทางการเต้นการรำของโขนไปประยุกต์ออกแบบท่าทางการต่อสู้ในภาพยนตร์เรื่อง “องค์บาก 3” โดยให้ชื่อศิลปะการต่อสู้ดังกล่าวว่า “นาฏยุทธ” มาแล้ว) แต่หลาย ๆ คนอาจจะมีคำถามสำคัญอยู่ในใจว่า.....แล้วเราจะไปหาชมโขนได้จากที่ไหน ??.....
เนื่องในปีมหามงคลสมัยที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พุทธศักราช 2549 มูลนิธิศาลาเฉลิมกรุงร่วมกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ริเริ่มให้มีโครงการจัดแสดงโขนขึ้น ณ โรงมหรสพหลวง “ศาลาเฉลิมกรุง” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองปีมหามงคลดังกล่าวรวมถึงเพื่อเป็นการเผยแพร่นาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง โครงการ “โขน ศาลาเฉลิมกรุง” นี้เป็นโครงการระยะยาวอันจะจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดไป ปัจจุบัน “โขน ศาลาเฉลิมกรุง” เปิดการแสดงตลอดทั้งปีทุก ๆ วันพฤหัสบดีและวันศุกร์ วันละ 1 รอบ เวลา 19.30 น. ใช้เวลาในการแสดงประมาณ 1 ชม.20 นาที โดยโขนที่จัดแสดง ณ ศาลาเฉลิมกรุงนี้เป็นประเภท “โขนฉาก”
![]() มาร่วมกันชม.....มาร่วมกันช่วย เหล่าศิลปินผู้สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า |
“โขน ศาลาเฉลิมกรุง” เป็นการแสดงอันงดงามวิจิตรตระการตาและถูกต้องตามขนบจารีตแบบแผนดำเนินเรื่องราวสั้นกระชับด้วยการพากย์ การเจรจา และเพลงหน้าพาทย์แบบโบราณ ใช้เครื่องแต่งกายที่สวยงามตามธรรมเนียมเดิม พร้อมทั้งมีคำบรรยายตัววิ่งภาษาอังกฤษประกอบตลอดการแสดง สำหรับ “โขน ศาลาเฉลิมกรุง” ชุดปัจจุบันซึ่งกำลังดำเนินการแสดงอยู่ในขณะนี้มีชื่อชุดว่า “หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี” (เริ่มการแสดงเบิกโรงมาตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 จวบจนถึงปัจจุบันและยังไม่มีกำหนดเปลี่ยนแปลงการแสดงเป็นชุดใหม่.....การแสดงชุด “หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี” นี้เป็นการแสดงโขนชุดที่ 3 นับตั้งแต่เริ่มมีโครงการ “โขน ศาลาเฉลิมกรุง” เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2548) มีเนื้อเรื่องโดยย่อดังต่อไปนี้
“นนทุก” อสูรผู้มีหน้าที่ล้างเท้าเทวดา – นางฟ้าได้ถูกเหล่าเทวดา – นางฟ้าเขกหัวเล่นจนกระทั่งหัวล้าน นนทุกมีความคับแค้นใจจึงขึ้นไปเฝ้า “พระอิศวร” บนยอดเขาไกรลาสเพื่อขอประทานนิ้วเพชรที่สามารถชี้ทำร้ายผู้อื่นได้ไว้ป้องกันตัว เหตุการณ์กลับตาลปัตรเมื่อพระอิศวรประทานนิ้วเพชรให้แต่นนทุกนำนิ้วเพชรนั้นไปชี้ทำร้ายเหล่าเทวดา – นางฟ้า และกำเริบเที่ยวทำร้ายผู้อื่นไปทั่ว เมื่อ “พระนารายณ์” ทราบเหตุจึงจำแลงกายเป็นนางงามมาลวงนนทุกให้หลงชอบแล้วหลอกล่อให้นนทุกรำตามจนนนทุกเผลอใช้นิ้วเพชรชี้ขาตนเองหัก หลังจากพระนารายณ์กลับร่างเดิมนนทุกได้กล่าวหมิ่นพระนารายณ์ว่าเป็นถึงเทพแต่กลับต้องทำกลอุบายแปลงร่างเป็นนางงามมาหลอกลวง พระนารายณ์จึงประทานสัตย์ว่าให้ชาติหน้านนทุกเกิดมาเป็นอสูรมี 10 พักตร์ 20 กร แล้วตนจะอวตารมาเป็นมนุษย์มี 2 มือและจะขอสู้กับนนทุกให้ได้ นนทุกจึงสาบานจะทำให้พระนารายณ์ต้องพรากจากคนรักและทนทุกข์ทรมาน จากนั้นพระนารายณ์จึงสังหารนนทุกสิ้นชีวิต นนทุกลงมาเกิดเป็น “ทศกัณฐ์” เจ้ากรุงลงกา
![]() ฉากรบอันยิ่งใหญ่ตระการตาของโขนเรื่อง "รามเกียรติ์" จัดแสดงเฉพาะในโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุงเท่านั้น |
พระอิศวรเฝ้าสังเกตเห็นเหตุการณ์อยู่จึงคิดว่าควรให้พระนารายณ์มีทหารคู่ใจ พระอิศวรจึงให้พระพายนำพลังและเทพอาวุธมารวมกันก่อกำเนิดเป็น “หนุมาน” เพื่อรอเป็นข้าทหารพระนารายณ์ (“หนุมาน” มีพระพายเป็นพ่อ มีนางสวาหะเป็นแม่) หลังจากนั้นพระนารายณ์ได้อวตารลงมาเป็น “พระราม” แล้วได้ออกเดินทางเข้าป่าพร้อมกับ “พระลักษมณ์” และ “นางสีดา” ต่อมาทศกัณฐ์ทำอุบายให้ “มารีศ” แปลงเป็นกวางทองมาลวง นางสีดาหลงกลจึงขอให้พระรามออกไปตามจับกวางทอง เมื่อพระรามออกตามไปก็พบว่ากวางทองมีลักษณะผิดสังเกตจึงแผลงศรสังหารเสีย ก่อนตายกวางทองร้องเป็นเสียงพระรามหลอกให้พระลักษมณ์ซึ่งคอยเฝ้านางสีดาอยู่ตามมาช่วย พระลักษมณ์หลงกลจึงทิ้งนางสีดาออกมาตามหาพระราม ฝ่ายทศกัณฐ์เห็นสบโอกาสจึงแปลงเป็นฤๅษีเข้าไปหานางสีดาและจับตัวนางไป เมื่อพระรามกับพระลักษมณ์กลับมาที่อาศรมไม่พบนางสีดาก็ออกติดตามหาจนได้มาเจอกับหนุมานและกองทัพวานร ภายหลังพระราม , พระลักษมณ์ , หนุมานและกองทัพวานรเข้าช่วยกันร่วมรบกับกองทัพของทศกัณฐ์จนได้รับชัยชนะ รับนางสีดากลับคืนมาแล้วจึงเดินทางกลับนครอโยธยา สุดท้ายพระรามได้ขึ้นครองราชย์ปกครองแผ่นดินด้วยความสงบร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
คณะกรรมการผู้รับผิดชอบโครงการ “โขน ศาลาเฉลิมกรุง” ชุด “หนุมานข้าราชบริพารพระจักรี” ได้ทำการคัดเลือกศิลปินซึ่งได้รับการฝึกฝนนาฏศิลป์ชั้นสูงของไทยจากหลากหลายสถาบันจำนวนมากกว่า 60 ท่านให้เข้ามาร่วมในการแสดงชุดนี้ มีผู้กำกับการแสดงคือ “อาจารย์เฉลิมศักดิ์ ปัญญวัตวงศ์” บรรเลงดนตรีโดย “วงโรหิตาจล” ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อจองบัตรชมการแสดง “โขน ศาลาเฉลิมกรุง”ราคาประหยัดผ่านทางเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ได้ตามตารางราคาและเงื่อนไขทางด้านล่าง (บัตรชมการแสดง “โขน ศาลาเฉลิมกรุง” ราคาประหยัดนี้จัดให้เฉพาะผู้ซึ่งติดต่อจองบัตรผ่านทางเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมตามเงื่อนไขทางด้านล่างเท่านั้น กรณีที่ติดต่อซื้อบัตร ณ จุดจำหน่ายตั๋วของศาลาเฉลิมกรุงจะคิดเป็นราคา walk in ตามปกติครับ)
ตัวอย่างการแสดงโขน
การแสดงโขนมีคุณค่าและเป็นที่ตื่นตาตื่นใจกับนักท่องเที่ยวเป็อย่างมาก
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มาชมการแสดงจะเป็นนักท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่เพราะการแสดงโขนมีคุณค่าต่อวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวจึงเล็งเห็นความงดงามปราณีตและสิ่งแปลกใหม่ของคนไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ดังนั้นทำให้ชาวต่างชาติได้ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงเช่นนี้เป็นอย่างมาก
ผู้ที่จะเข้าชมการแสดงควรปฏิบัติดังนี้
โขน (Khon) บัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง |
ราคา (บาท)
|
5 แถวแรกจากด้านหน้า (A , B , C , D , E) |
800 (walk in 1,200)
|
แถวที่ 6 - 11 (F , G , H , I , J , K) |
700 (walk in 1,000)
|
ตั้งแต่แถวที่ 12 (L , M , N , O , P) และที่นั่งชั้นบน |
600 (walk in 800)
|
หมายเหตุ - เปิดการแสดงทุกวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ รอบ 19.30 น. ณ โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง
- การแสดงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที และ VTR โขน 7 นาที
- การแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) มีตัววิ่งภาษาอังกฤษประกอบตลอดการแสดง - ชมฟรี !! สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และ เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี
(กรุณานำหลักฐานยืนยันอายุตามความเป็นจริงมาแสดง ณ จุดจำหน่ายบัตรศาลาเฉลิมกรุง)
- การแสดงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที และ VTR โขน 7 นาที
- การแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) มีตัววิ่งภาษาอังกฤษประกอบตลอดการแสดง - ชมฟรี !! สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี และ เด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี
(กรุณานำหลักฐานยืนยันอายุตามความเป็นจริงมาแสดง ณ จุดจำหน่ายบัตรศาลาเฉลิมกรุง)
สำรองบัตรชมการแสดงโขน ศาลาเฉลิมกรุงราคาพิเศษ ติดต่อ : (089) 137-8702 , (084) 145-0957 , (084) 360-2913 หรือ (02) 928-2167 Fax. (02) - 980-4455 , (02) - 981-4599 , (02) - 457-2698 |
รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับการจองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon)
เงื่อนไขการจอง และการชำระเงิน
1. บริการจองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) ราคาพิเศษนี้ จัดให้เฉพาะผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมซึ่งติดต่อจองล่วงหน้าตามเงื่อนไขด้านล่างต่อไปนี้และมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555 - 31 ธันวาคม 2555 เท่านั้น
2. ต้องสำรองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) ราคาพิเศษล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน ในช่วงวันทำการปกติ (และล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง หรือช่วงเทศกาล)
3. โทรศัพท์ตรวจสอบที่ว่างสำหรับบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) ตามเบอร์ติดต่อ (089) 137-8702 , (084) 145-0957 , (084) 360-2913 หรือ (02) 928-2167
4. กรณีมีที่ว่างสำหรับบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) ราคาพิเศษ กรุณาชำระค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนตามที่นั่งซึ่งได้สำรองไว้ (ชำระค่าใช้จ่ายตามราคาโปรโมชั่นในตาราง ไม่ใช่ตามราคาปกติในวงเล็บค่ะ) ภายใน 3 วัน หลังจากติดต่อสำรองบัตร (และต้องชำระค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยก่อนวันเดินทางจริงล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน ในกรณีวันทำการปกติ หรือชำระค่าใช้จ่ายเพื่อสำรองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) ให้เรียบร้อยก่อนวันที่เดินทางจริงล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันในกรณีวันหยุดต่อเนื่องหรือวันหยุดช่วงเทศกาล) โดยโอนเงินเข้าบัญชีตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้เท่านั้น
การชำระเงิน โดยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารด้านล่างนี้เท่านั้น
บัญชีออมทรัพย์ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาเมืองทองธานีซิตี้เซ็นเตอร์ 2 ชื่อบัญชี : Thongteaw.com (ท่องเที่ยวดอทคอม) เลขที่บัญชี : 402-222838-7 |
5. ภายหลังจากชำระค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อย กรุณาโทรแจ้งการชำระค่าใช้จ่ายตามหมายเลขโทรศัพท์ในข้อ 3. เพื่อยืนยันการสำรองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon) ราคาพิเศษดังข้างต้น และเก็บสลิปการโอนค่าใช้จ่ายไว้เป็นหลักฐาน
6. ภายหลังจากยืนยันการชำระค่าใช้จ่าย (และตรวจสอบพบว่ามีการชำระค่าใช้จ่ายแล้วจริง) ท่านจะได้รับใบจองในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน (ปกติจะได้รับภายใน 24 - 48 ชม.) โดยสามารถนำใบจองดังกล่าวไปแสดง ณ เคาน์เตอร์สำรองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon)ได้ในวันและเวลาที่ทำการสำรองไว้ ในกรณีที่ตรวจสอบไม่พบการชำระค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่จะติดต่อแจ้งให้ท่านส่งสำเนา
สลิปการโอนค่าใช้จ่ายมาตรวจสอบอีกครั้งตามหมายเลข Fax. (02) - 980-4455 , (02) - 981-4599 , (02) - 457-2698 หรือ E-mail : Thongteaw.com@gmail.com และจะมีการติดต่อจากเจ้าหน้าที่กลับไปแจ้งผลการตรวจสอบอีกครั้งภายใน 24 - 48 ชม.
7. เนื่องจากการสำรองทัวร์ตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นนี้เป็นการสำรองบัตรชมการแสดงโขนศาลาเฉลิมกรุง (Khon)ราคาพิเศษ ภายหลังจากที่ท่านได้ทำการชำระค่าใช้จ่ายแล้วจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือขอยกเลิกการสำรองได้ เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอมขอสงวนสิทธิ์ในการงดคืนค่าใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งท่านได้ชำระไว้แล้วในทุกกรณี (ยกเว้นกรณีตามข้อ 8.)
8. เว็บไซต์ท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ไม่มีความประสงค์หรือนโยบายใด ๆ ที่จะกระทำการเพื่อหลอกลวง ทุจริต หรือ ฉ้อโกงท่านในทุกกรณี หากทางเว็บไซต์ไม่สามารถสำรองบัตรราคาพิเศษตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้นนี้ให้แก่ท่านได้ ทางเว็บไซต์ยินดีคืนค่าใช้จ่ายซึ่งท่านได้ชำระไว้แล้วเต็มจำนวนให้ โดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ ราคานี้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2555 - 31 ธันวาคม 2555 เท่านั้น
เว็บไซต์ของศาลาเฉลิมกรุง : www.salachalermkrung.com
เว็บไซต์ของศาลาเฉลิมกรุง : www.salachalermkrung.com
การเดินทางสู่โรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง :
รถยนต์ส่วนบุคคล โรงมหรสพหลวง “ศาลาเฉลิมกรุง” ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง เขตพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถบริเวณชั้นใต้ดินของ “ห้างสรรพสินค้าดิโอลด์สยาม (The Old Siam Plaza)” แล้วเดินมายัง “ศาลาเฉลิมกรุง” ใกล้ ๆ ได้ (เสียค่าธรรมเนียมจอดรถให้ห้างสรรพสินค้าดิโอลด์สยาม 30 บาท แล้วนำบัตรจอดรถมาประทับตรา ณ “ศาลาเฉลิมกรุง” เพื่อใช้จอดรถฟรีได้ 5 ชม.ครับ)
รถประจำทาง มีรถประจำทางสายที่ผ่าน “ศาลาเฉลิมกรุง” ได้แก่ สาย 1 , 6 , 8 , 25 , 35 , 43 , 48 , ปอ.1 , ปอ.507
รถยนต์ส่วนบุคคล โรงมหรสพหลวง “ศาลาเฉลิมกรุง” ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง เขตพระนคร จ.กรุงเทพมหานคร นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถบริเวณชั้นใต้ดินของ “ห้างสรรพสินค้าดิโอลด์สยาม (The Old Siam Plaza)” แล้วเดินมายัง “ศาลาเฉลิมกรุง” ใกล้ ๆ ได้ (เสียค่าธรรมเนียมจอดรถให้ห้างสรรพสินค้าดิโอลด์สยาม 30 บาท แล้วนำบัตรจอดรถมาประทับตรา ณ “ศาลาเฉลิมกรุง” เพื่อใช้จอดรถฟรีได้ 5 ชม.ครับ)
รถประจำทาง มีรถประจำทางสายที่ผ่าน “ศาลาเฉลิมกรุง” ได้แก่ สาย 1 , 6 , 8 , 25 , 35 , 43 , 48 , ปอ.1 , ปอ.507
ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากโรงมหรสพหลวง “ศาลาเฉลิมกรุง”, วิกิพีเดีย, มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์